Featured

ฮานอย ประเทศเวียดนาม

ทัวร์เวียดนาม
ท่องเที่ยวฮานอยคราวนี้ไปจัดทริปท่องเที่ยวฮานอย อาทดลอง นิงห์บิงห์ 4 วัน จังหวะมาแบบงี้ลางานไปเลยจ้ะ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ก็ถึงสนามบินนอยไบ กรุงฮานอย เป็นจังหวัดที่มีความพิเศษทางธรรมชาติมากมาย ฮานอยมีพื้นที่เป็นที่เปียกน้ำในเขตแดนอันกว้าง ตรงนี้คนไม่ใช่น้อยเรียกว่า อ่าวฮาทดลองบนแผนดินหรือฮาทดลองบก นั่นเองจ้ะ!! ตรงนี้ทางทัวร์จะให้พวกเราได้อิสระสำหรับการช้อปปิ้งตามร้านขายของต่างๆรวมทั้งที่ปลาบปลื้มกว่านั้น แถบที่พัก มีลานเบียร์สดให้จิบกันเบาๆกับบรรยากาศเย็นสบายช่วงเวลาค่ำคืน มาถึงแล้วจำเป็นต้องทดลองเบียร์สดกันนะคะ^
กลางทางไปถ้ำตำก๊อกน้ำจะผ่านทุ่งนาข้าวอยู่สองข้างทาง ถ้ำตำก๊อกน้ำจะมีหินงอกหินย้อยอันน่าแปลกจิตใจ หลบซ่อนอยู่ภายใต้ความลึกของแนวเขา เทือกเขาและก็สมุทรเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ทำให้ตรงนี้มีทำเลที่ตั้งที่อย่างกับภาพวาดแหนะ
และก็ตามด้วยการนั่งรถยนต์กอล์ฟเพื่อสักการพุทธปฏิมาที่วัด BAI DINH ซึ่งเป็นวัดดั้งเดิมประจำเมืองของเมืองหลวงเก่าที่มีประวัติและก็เกียรติศักดิ์ของเวียดนาม มีพุทธรูปตั้งเรียงรายทั้งสิ้น 2,000 องค์ ยิ่งไปกว่านี้มีหอระฆัง ตึกเจ้าแม่กวนอิม รวมทั้งวิหารเจ้าแม่กวนอิมพันแขน วัดนี้ถูกผลิตมาถูกหลักฮวงจุ้ยแท้ๆเป็นข้างหน้าเป็นน้ำข้างหลังเป็นเขา มีแนวเขาเยอะแยะ ทุ่งข้าว ท้องน้ำ รวมทั้งมีแม้กระนั้นพืชเขียวชอุ่มผ่องใส ยิ่งมองดูยิ่งงามประหลาดตาหาไม่ได้จากที่ไหน
ต่อจากนั้นถึงเวลาพักตอนเที่ยง เอาแรงเพื่อเดินทางสู่ดินแดนที่มังกรหลับ เมืองฮาทดลอง จังหวัด Quang Ninh ตรงนี้มีอณาเขต ใกล้กับเมืองจีน ใช้เวลาสำหรับการเดินทางตรงนี้นาน 4 ชั่วโมง ระหว่างนั้นเขามีให้แวะพักร้านค้ายาสมุนไพร หรือผู้ใดกันจะนวดเพื่อบรรเทาตามความสะดวก
แวะทานมื้อเย็นเสร็จฝ่าช้อบอิสระต่อที่ตลาดยามค่ำคืนของเมืองฮาทดลอง มีของกำนัล ของฝาก ยกตัวอย่างเช่น กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ไม้หอมแกะ ฯลฯ แม่ค้าตรงนี้โดยมากกล่าวภาษาไทยได้ แล้วก็สามารถต่อรองราคาผลิตภัณฑ์ได้ด้วยนะ
จากนี้ได้ดูความสวยสดงดงามของถ้ำด่งเทียนลุกง มีหินงอกหินย้อยล้วนแล้วแต่งดงาม เพราะถ้ำนี้พึ่งถูกศึกษาค้นพบก็เลยชื่นชอบมากมายเป็นพิเศษที่ได้มาดูความสวยสดงดงามการประดับสีตามฝาผนังและก็มุมต่างๆที่ผลิตขึ้นโดยธรรมชาติและก็ถูกเติมแต่งโดยความสามารถมนุษย์ แสงสีที่พอดีกระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดจินตนาการรูปร่างต่างๆ มังกร นางอัปสร รูปคู่ชีวิตชายหนุ่มสา ฯลฯ ดูความสวยของธรรมชาติถึงเวลาเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกต่างๆแล้วเดินทางกลับสู่ท่าเรือฮาทดลอง
พักรับประทานอาหารเย็นแล้วไกด์จะพาพวกเราไปดูการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ เป็นศิลปกรรมประจำชาติซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเวียดนาม ที่ให้ดูได้เพียงแค่ตรงนี้แห่งเดียวของโลก
วันสุดท้ายในกรุงฮานอย เยี่ยม สี่เหลี่ยมด้านเท่าบาดิงห์ หลุมฝังศพผู้นำโฮจิมินห์ หลุมฝังศพใส่ร่างท่านผู้นำ ปิดเฉพาะวันจันทร์กับวันศุกร์ของอาทิตย์ รวมทั้งกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน โชคดีที่มาส.ค.เลยไม่พลาดที่กำลังจะได้ดู แต่ว่าสำหรับมาในตอนปิดบริการ สามารถดูความงดงามในบรรยากาศรอบนอกได้จ้ะ
ทิ้งท้ายด้วยมื้อเที่ยงตรงแบบจัดหนัก ทัวร์พามาจัดบุฟเฟต์นานาประเทศที่ร้านอาหาร ของกินละลานตามากมาย อร่อยจนกระทั่งท้องตึงรับประทานแบบไม่อายความเป็นกุลสตรีไทย
หมดแล้วกับทริปที่แสนพิเศษที่ได้ท่องไปยังเมือสีสันต์ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ดังภาพวาด ถ้าได้โอกาสได้ไม่เข้าทำงานมาอีก คราวหลังอาจจะหนีไม่พ้นกรุงฮานอยที่มีความเงียบสงบรวมทั้งบรรยากาศอันน่าหลงไหล
Advertisement
Featured

ไหว้พระเมียนมาร์ รวม 5 สถานที่ทำบุญทำกุศล เสริมดวงบารมี

ทัวร์พม่า
วันนี้ทางพวกเราก็เลยได้สะสมรายนาม 5 วัดสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหว้พระเมียนมาร์นิยมไปกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง !1.
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (Shwedagon Pagoda)
เมื่อเอ่ยถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของประเทศพม่าแล้ว คนจำนวนมากชอบระลึกถึง พระมหาเจดีย์ชเวดากอง มาก่อนเป็นลำดับต้นๆสถานที่สุดได้รับความนิยมชั้น 1 ของทัวร์ไหว้พระประเทศพม่า เนื่องมาจากมีรายการวิทยุแล้วก็รายการทีวีหลายรายการป้องกันอย่างยิ่งจริงๆที่จัดทัวร์ไหว้พระเมียนมาร์ตรงนี้ ก็เลยไม่ประหลาดใจว่าเพราะเหตุใดพวกเราถึงคุ้นชื่อเจดีย์ชเวดากองจากเมืองปิ้งกุ้งอย่างดีเยี่ยม
ส่วนความเป็นมาของความศักดิ์สิทธิ์ของเจดีย์ชเวดากองจนกระทั่งใครๆก็ต้องการมาทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระนั้น เริ่มมาจากการที่ บุเรงท่วม มาขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ลานอธิฐานก่อนออกศึก และก็แน่ๆว่าท้ายที่สุดเขาก็ชอบชนะซะทุกคราว ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความเชื่อของชาวมอญและก็ชาวประเทศพม่าอีกด้วยว่าการมากมายราบไหว้เจดีย์ชเวดากองนั้นจะเป็นแนวทางหมดทุกข์ ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ และก็อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของเจดีย์ชเวดากองก็คือบริเวณรอบๆเจดีย์นั้นจะมีทุกวันกำเนิดตั้งอยู่ 8 ด้าน ที่สามารถเลือกขอพรตามวันเกิดเพื่อเป็นบารมีกับชีวิตได้อีกด้วย
2.เทวดาทันใจ (Bo Bo Gyi) อีกหนึ่งไฮไลท์ของทัวร์เมียนมาร์
นอกเหนือจากพระมหาเจดีย์ชเวดากองแล้ว อีกหนึ่งโปรแกรมทัวร์เมียนมาร์ไหว้พระ ที่คนนิยมไปกันก็คือ ทัวร์ไหว้พระเทวดาทันใจ ที่เจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดาทันใจนั้นจะมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า นัตโบโบยี ซึ่งมาจากคำว่า “นัต” หมายความว่าจิตวิญญาณที่สูงกว่าผีแต่ว่าน้อยกว่าเทวดาตามคติความศรัทธาเมียนมาร์ มีบทบาทคุ้มครองปกป้องสถานที่สำคัญต่างๆกับคำว่า “ โบโบยี ” ที่คนประเทศพม่าใช้เรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือบุคคลที่ตนยกย่อง
ส่วนสิ่งที่ทำให้เกิดชื่อ เทวดาทันใจ มาจากความศักดิ์สิทธิ์ที่บอกต่อกันปากต่อปากว่าเมื่อมาขอพรตรงนี้แล้วพอกลับไปไม่กี่วันพรนั้นก็จะสมความต้องการ ก็เลยเป็นสาเหตุของชื่อ เทวดาทันใจ แล้วก็เป็นเลิศในปัจจัยที่คนอีกจำนวนไม่น้อยท่องเที่ยวไหว้พระประเทศพม่า
3.ทัวร์ไหว้พระประเทศพม่ากับ เทวดากระซุบกระซิบ (Amadaw Mya Nan Nwe)
เมื่อพวกเราไปไหวเทวดาทันใจแล้ว จำนวนมากท่องเที่ยวเมียนมาร์จะพาไปไหว้พระ สักการ เทวดากระซุบกระซิบ กันต่อเลย เพราะว่าสถานที่ตั้งของเทวดากระซิบกระซาบนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเจดีย์โบดาทาวน์ โดยเทวดากระซิบบอกมีชื่อเรียกในภาษาเมียนมาร์ว่า “อะมาดอว์เมียะ” เป็นบุตรสาวของพญานาคที่เลื่อมใสพุทธอย่างยิ่ง เมื่อตายไปก็เลยแปลงเป็น นัต
ส่วนต้นเหตุของชื่อเทวดากระซิบกระซาบ และก็ความอำนาจที่ล่อใจไหว้พระประเทศพม่านั้น บอกเลยว่ามีสาเหตุจากคนประเทศไทยนี่แหละ ตอนแรกชาวประเทศพม่าก็ไหว้ อะมาดอว์เมียะ ปกติ แม้กระนั้นไม่มีผู้ใดไปกระซุบกระซิบอะไร จนกระทั่งวันหนึ่งไกด์จากทัวร์ไหวพระเมียนมาร์ได้พาชาวไทยไปรวมทั้งมองเห็นป้ายภาษาเมียนมาร์ที่เขียนว่า “ห้ามพูดเสียงดัง” เนื่องจากว่ามีพ่อค้าแม่ขายรอบๆนั้นถูกใจโหวกเหวกโวยวาย แต่ว่าไกด์หลงผิดก็เลยบอกกับลูกทัวร์ไปว่า “ถ้าเกิดจะขอพรกับเทวดาองค์นี้ห้ามพูดเสียงดัง” ต่อจากนั้นลูกทัวร์ชาวไทยก็ไปกระซิบบอกขอพร ซึ่งแน่ๆชาวประเทศพม่ามองเห็นคนประเทศไทยทำแล้วก็สมหวังตามต้องการก็เลยเริ่มทำบ้าง กระทั่งแปลงเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสุดท้าย
4.สักการพระเขี้ยวแก้ว ศรีลังกา (Dalada Maligawa)
ที่ปิ้งกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกชิ้นหนึ่งที่คู่ควรกับการไปไหว้พระเมียนมาร์โน่นเป็น พระเขี้ยวแก้ว ที่วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี โดยพระเขี้ยวแก้วชิ้นนี้ได้เอามาจากประเทศศรีลังกาตั้งแต่ยุคพระผู้เป็นเจ้าบุเรงท่วม นับว่าเป็นสิ่งศักดาที่อยู่คู่กับประเทศพม่ามาเป็นเวลายาวนาน ในส่วนของตัววัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณีนั้นก็จัดว่าไม่ธรรมดา เพราะว่าเป็นการก่อสร้างแบบตามสถาปัตยกรรมแบบพม่า สวย งอนงาม โดยมีคุณลักษณะเด่นตรงที่ตัววัดจะเป็นทรงแปดเหลี่ยมที่สวย ก็เลยเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะมาไหว้พระประเทศพม่าที่วัดนี้
5.สักการพระนอนตาหวาน (Kyauk Htat Gyi Buddha)
ถ้าเกิดเมืองไทยมีพระนอนที่วัดโพธิ์เป็นแหล่งยั่วยวนใจนักเดินทางแล้ว ไหว้พระเมียนมาร์ก็มี พระนอนตาหวานหรือพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี (Chauk Htat Gyi pagoda) ที่วัดพระพุทธนอนหลับเจาทัตยี เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญเหมือนกัน โดยพระนอนตาหวานนี้เป็นพุทธรูปปริมาณยาวราวๆ 70 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศเมียนมาร์ มีข้อดีตรงที่ดวงตาที่มองหวานแล้วก็ผ้าจีวรที่เป็นพลิ้วไหวๆส่วนตรงแกนกลางฝ่าพระบาทนั้นจะมีรูปมงคล 108 ประการ นอกจากนี้พระบาทยังมีลักษณะทับกันทำให้ผิดแผกกับศิลป์แบบไทยอีกด้วย
Featured

ท่องเที่ยวประเทศเกาหลี สัมผัสหิมะ ดูซากุระบาน สะกดรอยซีปรี่ดัง

ทัวร์เกาหลี
การเดินทาง BANGKOK – KOREA
สำหรับในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้พวกเรามีพี่สาวสุดงามเป็นผู้นำทัวร์ที่รอดูแลอำนวยความสะดวกให้กับพวกเราสำหรับเพื่อการท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้การเดินทางมาประเทศเกาหลีในตอนม.ย.ที่เป็น หน้าร้อนของเมืองนั้นแม้กระนั้นที่ประเทศเกาหลีพวกเราจะได้สัมผัสกับความหนาวเย็นสบายในฤดูใบไม้ผลิ รวมทั้งสถานที่เที่ยวแรกที่ได้เดินทางไปนั้น
ENGLISH VILLAGE
ENGLISH VILLAGE เป็นสถานที่แรกสำหรับในการเดินทางท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้ ENGLISHVILLAGE เป็นสถานที่ใช้ถ่ายทำซี่รีส์ประเทศเกาหลีเรื่อง ” F4 รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง ” บรรยากาศรอบๆนั้น มองสะอาด สวยมากมาย อาคารตึกที่ทำขึ้นนั้นสไตล์ยุโรป ที่ให้ความรู้ความเข้าใจสึกเสมือนพวกเราได้ท่องเที่ยวยุโรปเช่นกัน ทั้งยังยังเบิกบานเพลิดเพลินเจริญใจกับการถ่ายภาพกับ POSTER ของซี่รีส์ประเทศเกาหลีเรื่อง F4 รักฉบับใหม่หัวใจ 4 ดวง ต่อไปได้รับประทานของกินประเทศเกาหลีมื้อแรกี่มีชื่อว่า “ทัคคาลบี้เมื่อเพิ่มเติมพลังสำหรับการเดินทางด้วยของกินประเทศเกาหลี แล้วนั้นได้เดินทางถัดไปยัง” เกาะนามิ “สถานที่ถ่ายทำซีรี่ส์ประเทศเกาหลีดัง” WINTER LOVE SONG ” คุณจะได้สัมผัสทัศนียภาพของต้นไม่ ที่ปลูกเรียงรายสวย แต่ว่าด้วยอากาศที่ยังหนาวเย็นอนู่นั้นทำให้พวกเรามองเห็นฯลฯไม้ที่ไม่มีใบซึ่งให้ความรู้ความเข้าใจสึกงามไปอีกในลัษณะหนึ่งแม้กระนั้นถ้าเป็นฤดูใบไม้ผลิพวกเราได้มองเห็นฯลฯไม้ที่มีใบสีเหลือง ไปโคนลดแนวของต้นไม้ที่ขึ้นเรียงราย
ไร่สตอเบอร์ปรี่
เพิ่มพลังกับข้าวเช้าที่โฮเต็ลรวมทั้งเริ่มเดินทางสู่ไร่สตอเบอร์ปรี่เมื่อเดินทางมาถึงที่ไร่สตอเบอร์ปรี่ก็ได้ลองความอร่อยและก็สดใหม่ของสตอเบอร์ปรี่ซึ่งสามารถกล่าวได้เลยว่าเป็นสตอเบอร์ปรี่ที่อร่อยที่สุดเท่าที่เคยรับประทานมาเพราะว่าพวกเราสามารถเก็บจากต้นได้เองกับมือแถม” สตอเบอร์ปรี่ที่นี้มีขนาดลูกใหญ่มากๆ” ภายหลังเดินเล่นไร่สตอเบอร์ปรี่พอเหมาะพอควรได้เดินทางถัดไปยังสถานที่เรียนสอนทำ” กิมจิ”ที่ได้ลงมือกระทำรับประทานจิเองกับมือแม้กระนั้นโชคร้ายที่มิได้ลองความสามารถตนเองแม้กระนั้นมีความคิดว่าคงจะอร่อยอยู่นะ รวมทั้งทานอาหารช่วงเวลากลางวันก่อนที่จะเดินทางยังดินแดน ที่ความสนุกสนานสานรวมทั้งเสียงหัวเราะ
EVERLAND
หลังรับประทานอาหารช่วงเวลากลางวันแล้วพวกเราทุกคนได้เดินทางไปสู่ดินแดนที่เสียงหัวเราะแล้วก็ความสนุกสนานร่าเริงอย่าง “EVERLAND”สวนสนุกที่ใหญ่แล้วก็งดงามที่สุดบรรยากาศข้างในสวนสนุกในเวลานี้ เต็มไปด้วยทุ่งดอกทิวลิปที่กำลังแข่งขันกันชื่นบานยกช่ออันงามมีการแสดงแล้วก็แห่ขบวนพาเหรดแล้วก็เครื่องเล่นต่างๆที่คอยให้มาแข่งขันความอาจหาญ แล้วก็สัมผัสความหวาดเสียว แม้กระนั้นที่ดีเลิศรวมทั้งจับใจสูงที่สุดในการเดินทางมาประเทศเกาหลีในคราวนี้เป็น หิมะที่ตกโปรยลงมา นับเป็น ” คราวแรกในชีวิตที่ได้สัมผัสกับหิมะของแท้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ” รู้สึกตื่นเต้นมากมายๆจนถึงหายหนาวเลย ไม่นานเดินทางกลับไปสู่ที่พักเพื่อพักเก็บแรงเอาไว้ท่องเที่ยว และก็ช้อปปิ้งในวันพรุ่งนี้
ป้อมฮวาซอง-อนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์-พิพิธภัณฑสถานเท็ดดี้กางร์
ภายหลังจากทานอาหารเช้าตรู่เสร็จเป็นระเบียบเรียบร้อยได้เริ่มเดินทางสู่”ป้อมฮาวาซอง”มรดกโลกของประเทศเกาหลีซึ่งเคยเป็นที่ประทับและก็ที่ฝั่งศพขององค์ชายรัชทายาทจังฮอนเป็นสถานที่โบราณของวงศ์สกุลประเทศเกาหลี ซึ่งได้เดินดูดูบรรยากาศรอบๆของป้อมฮาวาซองพอควร ก็ได้เดินทางสู่ บลูเฮาส์ ทำเนียบผู้นำคนปัจจุบันนี้ ได้ยืนถ่ายภาพเป็นของที่ระลึกคู่กับ ” อนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์ ” เครื่องหมายของความเป็นอมตะแล้วก็ดูทิวทัศน์ของ ” เทือกเขาหัวมังกร “จากนั้นเดินทางเข้าชม”พิพิธภัณฑสถานคติชนพื้นบ้าน”ที่ได้ทำความเข้าใจและก็รู้ถึง ประวัติความเป็นมาของคนประเทศเกาหลีตั้งแต่สมัยโบราณผ่านทางห้องแสดงหุ่นต่างๆในพิพิธภัณฑสถาน ข้างหลังออกมาจากพิพิธภัณฑสถานคติชนประจำถิ่นแล้วรับ ประทานข้าวกลางวัน แล้วก็ต่อจากนั้นเดินทางสู่ “หอสังเกตการณ์กรุงโซล (SEOUL TOWER) ” ที่นี้จะได้มองเห็นบรรยากาศรอบๆของกรุงโซล แล้วหลังจากนั้นเดินทางเข้าชม ” พิพิธภัณฑสถานเท็ดดี้กางร์ ” ( The Teddy Bear Museum ) ที่จะเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมีเท็ดดี้กางร์ในลักษณะต่างๆที่มีหมีเท็ดดี้กางร์เป็น ผู้แทนของผู้ที่เลียนแบบเหตุการณ์์รวมทั้งวิถีชีวิตของคนประเทศเกาหลี เพียงพอเดินเที่ยวในพิพิธภัณฑสถานหมีเท็ดดี้กางร์อย่างเพลินใจ จากนั้นก็เดินทางช้อปปิ้งที่ “ตลาดทงแดมุนรวมทั้งตลาดเมียงมองดอง” ซะจนถึงไม่มีแรงแล้วก็หมดกระเป๋าอย่างยิ่งจริงๆแล้วก็เดินทางสู่ที่พักเพื่อจัดแจงเดินทางท่องเที่ยวดินแดนประเทศเกาหลีในวันถัดไป
ถนนหนทางยออิโด
เดินดูดอกซากุระตลอดบน ” ถนนหนทางซากุระ หรือถนนหนทางยออิโด ” ที่กรุงโซล แล้วก็เก็บภาพความ ตรึงใจกับดอกซากุระอย่างเต็มเปี่ยม ถัดจากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชม ” โรงงานโสม ” ซึ่งได้รับทั้งยังความเข้าใจเรื่องโสมแล้วนั้นยังได้ดูรวมทั้ง ลองสินค้าที่ทำมาจาก โสมประเทศเกาหลีแบบของจริงเริ่มแรก นอกเหนือจากโรงงานโสมแล้วนั้น ได้เยี่ยมชม” โรงงานเจียระไนพลอยแอมมาครั้งส “ที่ดินแดนประเทศเกาหลี นับเป็นดินแดนของพลอยสีม่วง พลอยที่สุขภาพความยั่งยืนมั่นคงแล้วก็นำโชคของประเทศเกาหลีได้เยี่ยมชมจิวเวอร์ปรี่ที่ทำมาจากพลอยแอมมาครั้งส เพียงพอถึงเวลาตามที่ได้กำหนดการเดินทางก็จำเป็นต้องจำนนบอกอำลาดินดินแดนประเทศเกาหลี แล้วก็เดินทางกลับสู่เมืองไทยโดยสวัสดิภาพการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศเกาหลีในคราวนี้เต็มไปด้วยความซาบซึ้งแล้วก็ความตื่นตาตื่นใจ กับสิ่งที่ได้สัมผัส ความสวยของธรรมชาติที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นความสวยของดอกซากุระ และก็ยังรวมทั้งหิมะที่ตกโปรยลงมา นับเป็นสิ่งอัศจรรย์ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนรวมทั้งสร้างความตรึงใจให้อย่างยิ่ง ” ท่องเที่ยวประเทศเกาหลีตอนนี้นับเป็นอีกหนึ่งการเดินทางที่สร้างความตรึงใจมหาศาล

5 สถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีใต้ ที่คุณห้ามพลาดเด็ดขาด อัพเดท 2018

ประเทศเกาหลีใต้เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ชาวไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยว เนื่องมาจากใช้เวลาเดินทางไม่นานแค่เพียง 5-6 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว และก็ยังเป็นประเทศไม่ต้องขอวีซ่าท่องเที่ยวอีกด้วย หากจะกล่าวถึงสถานที่ท่องเที่ยวในเกาหลีนั้นอันที่จริงแล้วมีเยอะแยะหลายที่ ด้วยเหตุผลดังกล่าวคนใดกันแน่กำลังแพลุกลี้ลุกลนท่องเที่ยวหรือกำลังตัดสินใจว่าจะท่องเที่ยวประเทศไหนดี ลองตามมาดู 15 สถานที่เที่ยวห้ามพลาดในประเทศเกาหลี แล้วจะต้องอยากท่องเที่ยวแน่นอน

1. พระราชวังเคียงบกกุง Gyeongbokgung Palace
พระราชวังเคียงบกกุง (Gyeongbokgung Palace) หรือเรียกอีกแบบหนึ่งว่า “พระราชวังคยองบกกุง” เป็นทั้งยังสัญญลักษณ์และก็แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของกรุงโซล พระราชสำนักที่มีขนาดใหญ่และก็ดั้งเดิมที่สุดในกรุงโซล ผลิตขึ้นในปี 1394 ในยุคพระผู้เป็นเจ้าแทโจ ราชวงศ์โชซอน แรกเริ่มนั้นข้างในวังมีตึกแล้วก็ตำหนักต่างๆมากกว่า 200 หลัง แม้กระนั้นเมื่อมีการรุกรานของญี่ปุ่น ตึกโดยมากก็ได้ถูกทำลายลงคงเหลือเพียงแค่ 10 ข้างหลังเท่านั้น

2. เกาะนามิ สุดโรแมนตำหนิค Namiseom Island
เกาะนามิเกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากผลการกั้นน้ำเพื่อสร้างเขื่อน มีพื้นที่ประมาณ 270 ไร่ มีลักษณะเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว บนเกาะนี้มีชื่อในหมู่คนเกาหลีมานานด้วยเหตุว่ามีธรรมชาติที่สวยสดงดงามยังมีสัตว์เล็กๆอาศัยอยู่ตามธรรมชาติดังเช่นว่า กระรอก กระแต นก หงส์ ห่าน รวมทั้งนกกระจอกเทศด้วย แล้วก็ตรงนี้จะนำสายไฟลงใต้ดินทั้งปวง เพียงแค่รักษาความเป็นธรรมชาติเอาไว้ โดยตอนที่มีนักท่องเที่ยวมามากที่สุดจะเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง เนื่องจากต้นไม้มากมายที่นี่จะเปลี่ยนสีเหลือง สีแดง สีส้ม โดยยิ่งไปกว่านั้นทางเท้าใต้ต้นแปะก๊วยที่จะเปลี่ยนแปลงใบเป็นสีเหลืองสดสวยมาก แต่ว่าตรงนี้คนจะมากมายตลอดทุกฤดู

3. รางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station
ทางรถไฟดอกซากุระคยองฮวา – Gyeonghwa Station เป็นเลิศในจุดชมซากุระที่งามอันดับแรกๆของเกาหลีเลยก็ว่าได้ โดยสามารถแลเห็นรถไฟที่วิ่งมาหยุดที่สถานีพร้อมด้วยทิวทัศน์อุโมงค์ดอกซากุระที่เรียงรายกันอยู่เต็มทั้งสองข้างทางในช่วงราวๆต้นเดือนม.ย. สถานีรถไฟคยองฮวาแห่งนี้เป็นสถานีเล็กๆที่อยู่ที่เมืองจินแฮ (Jinhae) จังหวัดเคียงซังนัมโด (Gyeongsangnam-do) ได้มีการยกเลิกการใช้แรงงานไปแล้วตั้งแต่ปี 2015 แต่จะเปิดให้รถไฟวิ่งเฉพาะในช่วงเทศกาล Jinhae Gunhangje Festival ซึ่งเป็นเทศกาลดูดอกซากุระที่จัดอย่างยิ่งใหญ่ของเมืองจินแฮ แม้กระนั้นรถไฟนั้นจะไม่ได้มาหยุดที่สถานี เพียงแค่ใช้เป็นทางผ่านไปยังสถานีอื่นๆ

4. อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream
อุโมงค์ซากุระ ลำคลองยอชวาชอน – Yeojwacheon Stream เป็นเลิศในจุดที่เป็นที่รู้จักเยอะที่สุดสำหรับการชมดอกซากะของเมืองจินแฮ เริ่มมีชื่อเสียงกันภายหลังซีรีย์เรื่อง Romance กระจายเสียงเมื่อปี 2002 ซึ่งใช้คลองแห่งนี้เป็นฉากสำหรับการถ่ายทำ เลื่องลือกระทั่งมีชื่อเรียกสะพานที่ใช้ผ่านลำคลองตามชื่อซีรีย์ซึ่งก็คือ Ramance Bridge

ในทุกๆม.ย.ของทุกปีซึ่งเป็นตอนๆที่มีเทศกาลชมดอกซากุระ ที่คลองที่นี้จะเต็มไปด้วยนักเดินทางที่เดินทางมาชมความงามของดอกซากุระ สามารถเดินเที่ยวได้อีกทั้งข้างบนสะพานและก็ข้างล่างซึ่งจะมีทางเท้ายาวตลอดแนวเรียบไปกับคูน้ำ และยังมีดอกเรปซีดเซียวซึ่งเป็นดอกไม้ต้นเล็กมีดอกสีเหลืองบานพร้อมซากุระอีกด้วย แต่ละปีก็จะมีการแต่งแต้มตกแต่งรอบๆคลองในช่วงที่จัดงานเทศกาล ไม่ว่าจะเป็นการนำร่มที่สีสันสดใสมาแขวนไว้หรือจะเป็นโคมรูปหัวใจน่ารักน่าเอ็นดูๆและก็ในช่วงกลางคืนก็จะเปิดไฟตกแต่งสวยงามมากมาย

5. เขตช้อปปิ้งเมียงป่า หรือ มยองป่า
ย่านช้อปปิ้งเมียงป่า หรือ มยองป่า (Myeong-dong) ตั้งอยู่แกนกลางกรุงโซล เป็นเขตช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมและก็คักคักที่สุดของกรุงโซล ล่อใจนักท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ล้านคนต่อวัน ทั้งยังสามารถเดินทางได้สะดวก ถือว่าเป็นศูนย์กลางของการบ้านการเมือง เศรษฐกิจ และก็วัฒนธรรมเลยทีเดียว ด้านในตลาดเมียงมองป่าดงเต็มไปด้วยร้าน และห้องอาหารนับไม่ถ้วน เป็นเยี่ยมในสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวแล้วก็นักช้อป

ห้างสรรพสินค้า
ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุด อาทิเช่น ห้างลอตเต้(Lotte) กับห้างเคยชินเซแก(Shinsegae) ส่วนร้านอื่นๆก็ตั้งอยู่ทุกซอกมุม รวมถึงแผงลอยข้างถนนที่ขายเสื้อผ้า เครื่องเพชรพลอย เครื่องแต่งหน้า ผลิตภัณฑ์อื่นๆในราคาไม่แพง รวมทั้งอาหารหวานแสนอร่อย โดยเจ้าของร้านส่วนใหญ่สามารถบอกภาษาอังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และไทยได้

เป็นอย่างไรกันบ้าง 5 สถานที่เด็ดไหม สามารถติดตามชมการจัดสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีอีกเพียบเลยจริงๆประเทศนี้ท่องเที่ยวอย่างไรก็ไปไม่หมดกล้วยๆหวังว่าเพื่อนๆอาจถูกใจ และก็ติดตามบทความของพวกเรา คนไหนกันประทับใจได้โปรดแชร์ให้เพื่อนฝูงๆได้อ่านกันด้วยนะ แล้วพบกันตอนใหม่

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เกาหลี

5 สถานที่เที่ยวในประเทศประเทศพม่าที่คุณจะต้องไป ไม่ใช่แค่การไปไหว้พระ อัพเดท 2018

หากกล่าวถึง ประเทศพม่า เพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากประเทศไทย ส่วนมากผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยมักระลึกถึงการไปไหว้พระเท่านั้น แต่ว่าเรื่องจริงเมียนมาร์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายสไตล์ ที่ควรค่าแก่การไปสัมผัสสักหนึ่งครั้ง วันนี้เราสะสม 5 สถานที่เที่ยวเมียนมาร์ นอกเหนือจากการไหว้พระ มาให้ทุกคนรู้จัก จะมีที่ใดบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. เมืองพม่า ทะเลเจดีย์และวิถีชีวิตแบบพูกามๆ
นับว่าเป็นโชคดีของชาวพม่า ที่พุทธเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดด้วยเหมือนกันขณะนั้น ทำให้พระผู้เป็นเจ้าอโนรธามังช่อรับเอาศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำประเทศ พระองค์สร้างเจดีย์ที่แรกขึ้น ชื่อ “เจดีย์ชเวซีโกน” หลังจากนั้นกษัตริย์รุ่นต่อๆมา รวมถึงเสนาบดีแล้วก็ผู้มีอันจะกินทั้งหลายในพูกามก็ระดมสร้างวัด สร้างเจดีย์กันเต็มพื้นที่ไปหมด คงจะเพราะเหตุว่าความเชื่อถือที่ว่า ยิ่งเล่นใหญ่ เอ๊ย!! ยิ่งสร้างวัดใหญ่โตแค่ไหน ยิ่งได้บุญกุศลบารมีมากเพียงแค่นั้น

อาณาจักรพูกามเคยรุ่งเรืองแค่ไหนเราคงไม่ต้องเล่า เนื่องจากว่าเกือบ 1,000 ปีที่ผ่านมาทุกสิ่งได้พิสูจน์ตัวเองไปเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว ตัวเราต่างหากที่ต้องมาพิสูจน์ความยิ่งใหญ่นั้นด้วยตาของเราเอง จากเจดีย์กว่า 4,446 องค์ วันนี้เหลือแค่ 2,200 กว่าองค์ ไม่รีบมาดูซะวันนี้ก็ไม่เคยรู้ว่าอีกหน่อยจะเหลือให้มองขนาดไหน

2. ตะลุยสวนน้ำ Yangon Water Boom
หากโลกนี้มันร้อนนัก ก็ไปพักผ่อนเล่นน้ำกันที่สวนน้ำ Yangon Water Boom กันดีกว่า! สถานที่เที่ยวในประเทศพม่า อีกแห่งที่ต้องการเชื้อเชิญคุณมาคลายร้อน โดยสวนน้ำ Yangon Water Boom ถือเป็นสวนน้ำที่แรกของประเทศพม่า ตั้งอยู่ในเมืองปิ้งกุ้ง ตรงนี้คุณจะได้พบกับสไลด์เดอร์สุดเยี่ยมระดับโลก ทั้งยัง “Free Fall Slides” หวาดเสียวกับสไลด์เดอร์ที่มีความสูงถึง 15 เมตร! ให้คุณไหลลื่นลงมาด้วยความเร็วกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง เรียกว่าเสียวกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว หรือจะเป็น “Python” ให้ท่านและเพื่อนๆนั่งสไลด์เดอร์ไปสนุกสนานร่วมกัน ผ่านท่อสีเขียวที่คดเคี้ยว ยาวกว่า 60 เมตร! นอกนั้นยังมีโซนสำหรับคุณหนูอย่าง “Kiddy pool” สนามเด็กเล่นที่ให้น้องๆได้ชุ่มฉ่ำกับสายน้ำเย็น พร้อมบริการเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับช่วยในด้านสำหรับอำนวยความสะดวกอีกทั้งล็อกเกอร์ บังกะโล ซาลอน ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก อย่างพร้อม หนีร้อนไปสนุกสนานกับสวนน้ำในย่างกุ้งกันเลยดีกว่า

3. ท่องเที่ยวสะพานอูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลก!
สะพานไม้โบราณ ที่แก่กว่า 200 ปี ทอดยาวด้วยความยาว 1,200 เมตร ที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน สร้างด้วยไม้ปริมาณพันกว่าต้น เราสามารถเดินชมสะพานไม้ไปเรื่อยได้ รวมทั้งยิ่งในเวลาที่ดวงอาทิตย์กำลังจะตกลงน้ำ(ดิน) บรรยากาศบริเวณบริเวณสะพาน จะมองเห็นได้ว่าแสงพระอาทิตย์แวววาวกับสายน้ำ นอกเหนือจากการที่จะได้ดูความสวยงามของดวงอาทิตย์ขึ้นรวมทั้งตกแล้ว ยังได้เห็นวิถีชีวิตของคนภรรยานมาด้วย เป็นประสบการณ์ที่สุดตรึงตาตรึงใจกันเลยทีเดียว

ของร้านขายเครื่องดื่ม ขายอาหารบนเกาะ ชมดวงอาทิตย์ตกในทะเลสาบ แถมมีปลารวมทั้งกุ้งใหม่ๆจากทะเลสาบ ให้ได้ลิ้มชิมรส นั่งพักผ่อนสบายๆแล้วคอยดูดวงตะวันตกได้อีกด้วย วิธีท้ายที่สุดเป็นแนวทางที่เสียตังต่ำที่สุด คือ สามารถยืนดูวิวบนสะพานได้เลย ได้สัมผัสบรรยากาศไปอีกคนละแบบจ้า

4. ทะเลสาบอินเล ทะเลสาบน้ำจืด และก็วิถีชีวิตคนอินเล
ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศพม่าเลยก็ว่าได้ ทะเลสาบอินเลอยู่ในเมือง Nyaung Shwe เมืองเล็กๆที่ชาวบ้านดำรงชีวิตท่ามกลางทะลสาบ .. หื้มมม? เป็นราษฎรเค้าสร้างบ้านรวมทั้งอยู่อาศัยกันในทะเลสาบเลยเอ็งรเอ้ยยย ทีนี้เนี่ย แน่นอนการดำเนินชีวิตแล้วก็การเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของเค้าต้องเกี่ยวกับทางทะเล เป็นต้นว่า การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การผลิตบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมถึงยานพาหนะต้องอย่างเรือ ที่แน่นอนมีจอดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือพรสวรรค์ของชาวอินคาเนี่ยล่ะ การพายเรือด้วยเท้าด้านเดียวสำหรับในการเดินทางรวมถึงจับสัตว์ในน้ำที่ไม่มีใครเหมือนในโลก ดังมากเว้ย ดังจนกระทั่งตรงนี้เป็นอีกจุดหมายนึงที่นักท่องเที่ยวจำต้องมาดูเลยแหละ ทราบแบบงี้แล้วตามไปเลยสิจ้าา

5. สัมผัสเกาะหัวใจมรกต ที่ทะเลประเทศพม่า.
เกาะค๊อกคอม เกาะหัวใจมรกต (Cocks Comb) เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลอันดามัน ซึ่งอยู่ห่างจากริมฝั่งจังหวัดระนองแค่เพียงโดยประมาณ 81.2 กม.เพียงแค่นั้น เกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นเกาะหินปูน ไม่มีชายทะเล มีช่องว่างอยู่กึ่งกลางเกาะ คล้ายกับปากปล่องภูเขาไฟ มีช่องเล็กๆให้น้ำทะเลเข้าไปได้ ถ้าเกิดมองดูจากมุมสูงจะมีความเห็นว่าช่องกึ่งกลางนี้มีรูปร่างคล้ายกับรูปหัวใจ เมื่อมีน้ำทะเลสีฟ้าอมเขียวใสแจ๋วเข้าไปในนั้น เพิ่มเติมกับรอบๆรอบปากปล่องมีต้นไม้สีเขียวขจี ทำให้รูปร่างหัวใจนี้แลเห็นชัดเจน จนได้รับการตั้งชื่อจากชาวไทยว่าเป็น “เกาะหัวใจมรกต” ซึ่งคนต่างชาติจะรู้จักกันในนาม “Hidden Lagoon”

เห็นไหมล่ะว่า การไปท่องเที่ยวพม่า ก็มิได้มีแต่การไปไหว้พระ หรือ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างเดียวเพียงแค่นั้น เมียนมาร์ยังมีแหล่งธรรมชาติงามๆอีกเยอะแยะ ถูกอกถูกใจคนชอบท่องเที่ยวชิลล์ๆสไตล์สโลว์ไลฟ์ ถ้าหากได้โอกาสทดลองไปเปิดมุมมองใหม่ให้การท่องเที่ยวพม่ากว้างขึ้นกว่าเดิม

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์พม่า

5 ยอดเยี่ยมสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณจะต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ่ยถึงเวียดนามใครๆก็ชอบระลึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แม้กระนั้นทราบไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าสนใจอีกเยอะแยะในเวียดนามที่ตอนนี้กำลังเป็นกระแสอย่างยิ่งๆที่คุณไปเวียดนามจำเป็นต้องไม่พลาด เรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีต้องสุดๆ5 สถานที่ตรงไหนกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. เที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดดอย อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังราวๆ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางโดยประมาณ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักและก็โฮเต็ลของชาวฝรั่งเศสยุคเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังสงครามชาวฝรั่งเศสแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่หลายปี จนถึงถูกกลับมาซ่อมแซมเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับเพื่อการนั่งกระเช้าจากข้างล่างขึ้นไปข้างบน ค่าครองชีพสำหรับการก่อสร้างเคเบิลคาร์ระยะแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา และช่วงที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดเขา มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ดังนี้ บานาฮิลล์ ถูกผลิตขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่โด่งดังจากออสเตรเลีย อุปกรณ์แล้วก็เครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดเส้นทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมดทั้งปวง 94 เคบิน กระเช้ามีอีกทั้งแบบเปิดเตียนโอเพ่นเครื่องปรับอากาศกับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ด้านในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.ท่องเที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่สำหรับท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ และยังรวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยสดงดงามและน่ามาเยี่ยมมากแห่งหนึ่งของโลก แล้วก็วันนี้เราจะขอชี้แนะสถานที่เที่ยวที่มีทั้งความงดงาม และความตรึงใจ

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่รู้จักของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างหมายถึงถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) เป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำซอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากข้างในถ้ำ แล้วก็ได้รับการยอมรับจาก นักตรวจถ้ำทั้งโลกว่า เป็นถ้ำลำดับที่หนึ่งของโลก เพราะว่าเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการอาทิเช่น น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำมากที่สุด ยาวที่สุด และกว้างที่สุด

“อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง” (Phong Nha-Ke Bang National Park) คืออีกหนึ่งจุดหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติและทางธรรีวิทยา ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่สมัยน้ำแข็ง (หรือราว 400 ล้านปี) โน่นก็เลยส่งผลให้อุทยานแห่งนี้มีตำแหน่งที่ตั้งแบบหินปูนที่โบราณที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จัก (Bo Trach) และอำเภอมิญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) และติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาทางใต้ประมาณ 500 กิโลเมตร ข้างในเขตสวนมีกลุ่มหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร อุทยานนี้โด่งดังในความงามของถ้ำที่มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีลำธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.ท่องเที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาทดลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง เป็นสถานที่เที่ยวสำคัญอีกแห่งในประเทศเวียดนามที่ชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วโลก ซึ่งนักเดินทางทุกคนไม่ควรพลาดชม โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากหน่วยงานองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติเพราะว่ามีความสวยงามของธรรมชาติเยอะมาก

ฮาทดลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาทดลองตั้งอยู่ทางทางเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 170 กิโล รวมทั้งอยู่ใกล้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฮาทดลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งสิ้น 1,500 ตารางกิโลเมตร มีริมฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวสมุทร บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นกับอย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความงดงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long คือ อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานราษฎรเวียดนามเล่ากันว่า ในสมัยก่อนที่ชาวเวียดนามกำลังทำศึกกับจีน ทวยเทพเทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งถัดมามังกรกลุ่มนี้ได้ดำตรงลงสู่ท้องทะเลบริเวณอ่าวฮาทดลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดารวมทั้งหชูพุ่งกระเด็นออกมากลายเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน รวมทั้งบางตำนานพูดถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งเชื่อว่าอาศัยอยู่ที่บริเวณก้นอ่าว

4.ท่องเที่ยวเมืองซาขว้าง นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาปา เป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์เยอะที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยพื้นที่อันงามที่กลุ้มรุมไปด้วยขุนเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบตลอดปีทำให้เช้าของที่นี่มีไอหมอกปกคลุมงดงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้แวะเวียนมาเที่ยวได้เยอะมากๆ

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาปา คือเมืองเล็กๆที่นักเดินทางต่างประเทศเริ่มเดินทางมาพักผ่อนตั้งแต่ยุคที่ประเทศฝรั่งเศสยังดูแลประเทศเวียดนาม โดยชาวยุโรปชอบใจตรงนี้ด้วยเหตุว่าอากาศดีและก็สงบเงียบ ถัดมาซาปาจึงโด่งดังแล้วก็เป็นที่นิยมจากนักท่องเที่ยวมากขึ้นจนถึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนหลายหมื่นคนต่อปี

5.เที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้ยืนยันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายเพราะภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายคนรู้จักดีกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่รวมทั้งอยู่ใกล้กับริมหาด จึงมีแดดและลมที่แรงมากทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งหมายถึงภูเขาทรายขาวและเทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang รวมทั้งมีร้านอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับเทือกเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ว่าเป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของตากล้อง เนื่องมาจากสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีงามกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตหมายถึงการเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่างซึ่งเครื่องมือสำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆภูเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าตอนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับในการมาท่องเที่ยวเป็น ตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนเวลาเย็น เนื่องจากตอนกลางวันถึงช่วงบ่ายนั้นอากาศและแดดแรงมากมาย
เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยค่ะ

เทือกเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย ด้วยเหตุว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายคนเคยชินกับสำเนียง “มุยเน่” นั้น มีขนาดใหญ่และอยู่ติดกับชายหาด จึงมีแดดและก็ลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 แห่งเป็นเทือกเขาทรายขาวแล้วก็เทือกเขาทรายแดง ซึ่งภูเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่ได้รับความนิยมมากยิ่งกว่าในสายตาของช่างถ่ายภาพ เพราะเหตุว่าสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีงามกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิตเป็นการเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

รายละเอียดต่างๆนอกเหนือจากนี้ : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ว่าขณะที่เยี่ยมที่สุดสำหรับการมาท่องเที่ยวเป็นตอนเช้าหรือไม่ก็ตอนเย็นเนื่องจากว่ากลางวันถึงช่วงเวลาบ่ายนั้นอากาศและก็แดดจัดมาก
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ พูดได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้ตรวจตราท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่าครองชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม